ดื่มน้ำน้อยเกินไป... ทำสุขภาพพัง

ดื่มน้ำน้อยไป... ทำร้ายสุขภาพ
         การดื่มน้ำน้อยไม่เพียงทำให้ร่างกายขาดน้ำและรู้สึกอ่อนเพลียไม่สดชื่นเท่านั้น แต่ยังส่งผลเสียร้ายแรงต่อสุขภาพของคุณอีกด้วยเราจึงมี 5 โรคร้ายที่มาจากการดื่มน้ำน้อย มานำเสนอ เพื่อให้คุณรีบหันมาใส่ใจสุขภาพและดูแลตัวเองก่อนโรคร้ายจะถามหา

1. สมองเสื่อม การดื่มน้ำน้อย อาจส่งผลเสียจนเสี่ยงต่อการเป็นโรคสมองเสื่อมได้ เพราะเมื่อร่างกายของเราขาดน้ำ ปริมาณของน้ำในร่างกายไม่เพียงพอในการเป็นส่วนหนึ่งของเลือดที่สูบฉีดไปทั่วร่างกาย เลือดมีความข้นหนืดมากขึ้นทำให้หัวใจไม่สามารถสูบฉีดเลือดไปเลี้ยงสมองได้เพียงพอ จึงเป็นสาเหตุของอาการสมองเสื่อมได้นั่นเอง เพราะฉะนั้นหากคุณรู้สึกไม่สดชื่น เนือยๆ คิดอะไรช้า ไม่กระฉับกระเฉง นั่นอาจเป็นผลมาจากการดื่มน้ำน้อยเกินไปได้

2. ริดสีดวงทวาร การดื่มน้ำไม่เพียงพอตามที่ร่างกายต้องการ อาจส่งผลให้ระบบย่อยอาหารทำงานได้ยากลำบากมากขึ้น และอาจทำให้คุณไม่สามารถขับอุจจาระออกมาได้ เพราะอุจจาระอาจแห้งเกินไป เมื่อของเสียสะสมอยู่ในลำไส้ ลำไส้ก็จะดูดซึมของเสียนั้นกลับเข้าร่างกายไปอีก ยิ่งทำให้เลือดมีของเสียและข้นหนืดกว่าเดิม อุจจาระก็แข็งแห้งกว่าเดิม จนเกิดเป็นอาการท้องผูก เมื่อคุณมีอาการแบบนี้บ่อยๆ อาจทำให้คุณป่วยเป็นโรคริดสีดวงทวารได้

3. ปวดข้อ กระดูกอ่อนในหลายๆ ส่วนของร่างกาย รวมไปถึงหมอนรองกระดูก มีส่วนประกอบเป็นน้ำมากถึง 80% ดังนั้นหากข้อต่อหรือหมอนรองกระดูกแห้ง ไม่ชุ่มชื้นเพียงพอ อาจทำให้ข้อต่อต่างๆ ดูดซับแรงกระแทกได้ไม่ดีพอ จนเกิดอาการบาดเจ็บได้ง่าย หรืออาจอักเสบได้ง่ายเมื่อต้องออกแรงเดิน ยก เหวี่ยง รวมไปถึงการออกกำลังกาย

4. ทางเดินปัสสาวะอักเสบ-กระเพาะปัสสาวะอักเสบ หากคุณมีอาการปวดปัสสาวะ แต่ไม่มีปัสสาวะไหลออกมา หรือไหลออกเพียงหยดสองหยด คุณอาจกำลังเป็นโรคทางเดินปัสสาวะอักเสบ หรือกระเพาะปัสสาวะอักเสบ อันเนื่องมาจากการดื่มน้ำไม่เพียงพอ การติดเชื้อ และการกลั้นปัสสาวะนานๆ

5. ประจำเดือนมาไม่สม่ำเสมอ ปัญหาสุขภาพของคุณผู้หญิงที่ต้องเจอหากดื่มน้ำน้อย หากคุณพบว่าคุณมีประจำเดือนที่ไม่สม่ำเสมอ ขาดๆ หายๆ มีน้ำเกินไป มีสีเข้มเกินไป มาเป็นลิ่มเลือด หรือแม้กระทั่งปวดท้องประจำเดือนมาก หนึ่งในสาเหตุอาจมาจากการดื่มน้ำน้อยเกินไปได้
หากคุณยังไม่รู้ว่ากำลังดื่มน้ำน้อยเกินไปหรือไม่ ให้รีบไปสังเกตอย่ามองข้ามสัญญาณเตือน

ด้วยความปรารถนาดีจากโรงพยาบาลวิภาวดี
ปริมาณน้ำที่ควรดื่มต่อวัน ( ประมาณ )
     คนเรา ควรดื่มน้ำวันละกี่ลิตร ตามหลักการดื่มน้ำที่คนรักสุขภาพควรรู้ คือการดื่มให้เหมาะสมกับน้ำหนักตัว อย่างน้อยที่สุดตามคำแนะนำจากองค์กรอนามัยโลก ใช้สูตรในการดื่มน้ำให้เพียงพอ ไม่ให้ต่ำไปกว่านี้ในแต่ละวัน ซึ่งนอกจากน้ำหนักตัวที่เป็นตัวแปรหลักแล้ว อาจมีปัจจัยอื่นมาเกี่ยวข้องด้วยในด้านพฤติกรรม เช่น การออกกำลังกาย สภาพอากาศ รวมไปถึงอาหารอื่นๆ ที่ทานในแต่ละมื้อ (ที่มีน้ำเป็นส่วนประกอบ)

สูตรการคำนวณว่า ควรดื่มน้ำวันละกี่ลิตร เป็นสูตรมาตรฐาน ที่ทางการแพทย์นิยมใช้วัดปริมาณการดื่มน้ำคร่าวๆ ของแต่ละบุคคล เพื่อวัดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคเกี่ยวกับไต โรคนิ่ว ที่มีสาเหตุมาจากการดื่มน้ำไม่เพียงพอเป็นระยะเวลายาวนาน ทำให้ปัสสาวะเข้มข้นกว่าปกติ จึงเกิดการตกตะกอนสะสม จนกลายเป็นก้อนนิ่วได้

แนะนำว่า น้ำดื่มควรเป็นน้ำธรรมดา ไม่จำเป็นต้องดื่มหลายๆ แก้วติดต่อกันในทันที ให้ค่อยๆดื่มน้ำ หากฝึกการดื่มให้ได้ตามปริมาณในเริ่มแรก อาจมีอาการปัสสาวะบ่อย เนื่องจากร่างกายยังไม่คุ้นชิน หากดื่มน้ำได้เกินปริมาณมาตรฐานจะดีมาก แต่หากดื่มน้อยไป ก็อาจมีโอกาสเสี่ยงต่อการเป็นโรคเกี่ยวกับไตได้สูง เพราะร่างกายของคนเรามีน้ำเป็นส่วนประกอบอยู่ถึง 75% สูตรการดื่มน้ำให้พอดีกับน้ำหนักตัว จึงเป็นสิ่งจำเป็นที่ต้องเรียนรู้ไว้ เพราะการดื่มน้ำในปริมาณที่ถูกต้อง จะทำให้เลือดไหลเวียนดี หัวใจทำงานปกติ และระบบถ่ายของเสียก็ทำงานได้ดียิ่งขึ้น

ผู้รักสุขภาพและอยากให้มีสุขภาพดี
น้ำสะอาดเป็นน้ำที่เหมาะสำหรับดื่มส่วนน้ำบริสุทธุ์ไม่เหมาะที่จะนำมาดื่ม
       น้ำสะอาดเป็นน้ำที่เหมาะสำหรับดื่มส่วนน้ำบริสุทธุ์ไม่เหมาะที่จะนำมาดื่ม และที่นี้ขออธิบายง่ายๆ และสั้นๆให้เข้าใจ เรื่องน้ำสะอาดเป็นน้ำที่เหมาะสำหรับดื่มส่วนน้ำบริสุทธุ์ไม่เหมาะที่จนำมาดื่ม
     น้ำสะอาดเป็นน้ำที่เหมาะสำหรับดื่มส่วนน้ำบริสุทธุ์ไม่เหมาะที่จนำมาดื่มเพราะน้ำสะอาดเป็นน้ำที่มีแร่ธาตุที่จำเป็นต่อการดำรงชีวิตของมนุษย์เรา เช่น แคลเซี่ยม ฟลูโอไรน์ และอื่นๆ โดยเฉพาะแคลเซี่ยมเป็นธาตุที่จำเป็นต่อกระดูกและฟันของเรา น้ำบริสุทธ์เป็นน้ำที่ผ่านกระบวนการทำน้ำให้บริสุทธ์ โดยน้ำบริสุทธ์เหมาะที่จะนำไปใช้ในกรรมวิธีที่จะทำสารเคมี นำไปเติมแบตเตอรี่รถยนต์ เป็นต้น
     กรรมวิธีทำน้ำให้สะอาด สำหรับดื่มนั้นเรานำน้ำที่ได้จากแหล่งที่สะอาดไม่มีสารพิษหรือสารจากภาคอุตสาหกรรมนำน้ำไปกรองเอาผงฝุ่นที่สะลายในน้ำออกแล้วนำไปต้มก็เพียงพอสำหรับนำน้ำมาดื่มได้แล้ว
     กรรมวิธีทำน้าบริสุทธ์ นำน้ไปผ่านกระบวนการกลั่นใช้ขั้นตอนพอสมควรในปัจจุบันไม่เป็นที่นิยมเพราะมัต้นทุนค่าใช้จ่ายที่สูงจึงมีการนำเอากระบวนการ Reversr osmosis(RO) มาใช้หรือเรียกกันสั้นๆ ง่ายๆ ทั่วไปว่า น้ำอาร์โอ

     การดื่มน้ำบริสุทธ์เป็นประจำส่งผลเสียต่อร่างกายของเรากล่าวคือ ร่างกายจะได้รับแคลเซี่ยมตามธรรมชาติอยู่สองทาง คือได้จากอาหารและได้จากน้ำสะอาดที่เราดื่ม แคลเซี่ยมที่ได้จากน้ำสะอาดและอาหารจะนำไปสร้างเนื้อเยื่อกระดูกและฟัน หากเราทานอาหารที่มีแคลเซี่ยมมากพอจะไม่ก่อให้เกิดปัญหาแต่ตามสถิติ คนไทยเราขาดแคลเซี่ยมตามหลักฐานอ้างอิงของกระทรวงสาธารณสุขคือขาดอยู่วันละประมาณ 350 - 400 มิลิกรัม ร่างกายเมื่อได้แคลเซี่ยมไม่พอจากน้ำสะอาดเพราะบางคนดื่มน้ำบริสุทธ์แทนจะเอาแคลเซี่ยมที่สะสมอยู่ที่กระดูกมาใช้เลยทำให้กระดูอ่อนแอเปราะและหักง่ายซึ่งปัจจุบันเราได้ยินข้อมูลประเภทนี้กันมาก



ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

กรดอะมิโนจำเป็น 9 ชนิด

การดูแลต่อมไทรอยด์

รักษามะเร็งด้วยใจที่ไม่ยอมแพ้ ต้องมีร่างกายที่พร้อมจะต่อสู้ ควบคู่กันไป