กล้ามเนื้ออ่อนแรง

กล้ามเนื้ออ่อนแรง (Myasthenia Gravis: MG)
     โรคกล้ามเนื้ออ่อนแรงเอ็มจี คือโรคที่มีสาเหตุมาจากระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายทำงานผิดปกติ ผู้ป่วยจะมีอาการหนังตาตก ยิ้มได้น้อยลง หายใจลำบาก มีปัญหาการพูด การเคี้ยว การกลืน รวมไปถึงการเคลื่อนไหวของร่างกาย โรคกล้ามเนื้ออ่อนแรงเกิดขึ้นได้ในผู้ป่วยทุกเพศทุกวัย ปัจจุบัน การรักษาทำได้เพียงเพื่อบรรเทาอาการ ผู้ป่วยจำเป็นต้องได้รับการดูแลที่เหมาะสมและเอาใจใส่จากคนรอบข้างอย่างสม่ำเสมอ

อาการของโรคกล้ามเนื้ออ่อนแรง
โดยปกติแล้วมักไม่พบอาการเจ็บหรือปวด แต่ผู้ป่วยอาจรู้สึกเจ็บหรือปวดหลังมีประจำเดือนหรือหลังออกกำลังกาย อาการที่สังเกตได้ตามบริเวณส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย เช่น ตา ใบหน้า ลำคอ แขนและขา โดยอาการต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นมักมีรายละเอียดดังนี้

  • กล้ามเนื้อรอบดวงตา หนังตาตกข้างใดข้างหนึ่งหรือทั้ง 2 ข้าง เป็นอาการแรกที่สังเกตได้ รวมถึงพบปัญหาด้านการมองเห็น เช่น มองไม่ชัด หรือเห็นภาพซ้อน เป็นต้น อาการจะดีขึ้นเมื่อหลับตาข้างใดข้างหนึ่งลง
  • ใบหน้า หากกล้ามเนื้อที่เกี่ยวข้องกับการแสดงออกบนใบหน้าได้รับผลกระทบ จะทำให้การแสดงออกทางสีหน้าถูกจำกัด เช่น ยิ้มได้น้อยลง หรือกลายเป็นยิ้มแยกเขี้ยวเนื่องจากไม่สามารถควบคุมกล้ามเนื้อบนใบหน้าได้
  • การหายใจ ผู้ป่วยกล้ามเนื้ออ่อนแรงจำนวนหนึ่งมีอาการหายใจลำบาก โดยเฉพาะเมื่อนอนราบอยู่บนเตียงหรือหลังออกกำลังกาย
  • การพูด การเคี้ยวและการกลืน เกิดจากกล้ามเนื้อรอบปาก เพดานอ่อน หรือลิ้นอ่อนแรง ส่งผลให้เกิดอาการผิดปกติบางอย่าง เช่น พูดเสียงเบาแหบ พูดเสียงขึ้นจมูก เคี้ยวไม่ได้ กลืนลำบาก ไอ สำลักอาหาร บางกรณีอาจเป็นสาเหตุไปสู่การติดเชื้อที่ปอด
  • ลำคอ แขนและขา อาจเกิดขึ้นร่วมกับอาการอ่อนแรงของกล้ามเนื้อส่วนอื่น ๆ มักเกิดขึ้นที่แขนมากกว่าที่ขา ส่งผลต่อการเคลื่อนไหวของร่างกาย เช่น เดินเตาะแตะ เดินตัวตรงได้ยาก กล้ามเนื้อบริเวณคออ่อนแรง ทำให้ตั้งศีรษะหรือชันคอลำบาก เกิดปัญหาในการแปรงฟัน การยกของ รวมไปถึงการปีนบันได  
กล้ามเนื้ออ่อนแรง อาจมาได้จากหลายสาเหตุ
- อายุที่มากขึ้น ทำให้กล้ามเนื้อขาดความแข็งแรง
- ผู้ที่ไม่ค่อยได้ออกกำลังกาย
- ผู้ที่มีกล้ามเนื้อน้อยเกินไป (ผอมแห้งแรงน้อย)
- ผู้ที่มีสัดส่วนของ กล้ามเนื้อน้อย แต่ไขมันมาก (อ้วนซ้อนรูป)
- ผู้ที่พักผ่อนน้อยมาก มักจะอ่อนเพลียง่ายและไม่ค่อยมีแรง
- ผู้ที่มีการไหลเวียนของเลือดไม่ค่อยดี ทำให้อวัยวะนั้นๆได้รับสารอาหารและออกซิเจนน้อยลง เช่น สมองและไขสันหลังในส่วนที่ควบคุมการทำงานของกล้ามเนื้อ
- ผู้ที่มีโภชนาการที่ไม่ดี ทานอาหารไม่ครบหมู่ ทำให้ขาดโปรตีน,วิตามิน,เกลือแร่ (บางชนิด)
- ผู้ที่มีโรคภัยไข้เจ็บแฝงอยู่ (เช่น เป็นไข้หวัด, ไข้หวัดใหญ่, เบาหวาน, ความดันโลหิตสูง, โรคอ้วน, โรคตับ, โรคกล้ามเนื้ออ่อนแรง ฯลฯ)
-
> หากมีอาการกล้ามเนื้ออ่อนแรงมากๆ หรือ บ่อยครั้งผิดปกติ ควรพบแพทย์เพื่อวินิจฉัยด้วยนะคับว่ามีโรคภัยไข้เจ็บแฝงอยู่หรือไม่ ซึ่งข้อมูลที่จะให้ต่อไปนี้ ไม่ได้เป็นการวินิจฉัยว่าเค้าเป็นโรคกล้ามเนื้ออ่อนแรงนะครับ (ต้องให้แพทย์เป็นผู้วินิจฉัย)
-
> เกร็ดความรู้สำหรับผู้ที่เป็น โรคกล้ามเนื้ออ่อนแรง (โรคเซลล์ประสาทสั่งการเสื่อม) ALS: Amyotrophic lateral sclerosis or Motor neuron disease นี้ พบได้น้อยมากในประเทศไทย ไม่มีข้อมูลว่าพบมากน้อยเพียงใด ในยุโรปพบประมาณ 2 รายต่อประชากร 100,000 คน ส่วนใหญ่เป็นผู้สูงอายุมากกว่า 60 หรือ 65 ปีขึ้นไป ผู้ชายพบบ่อยกว่าผู้หญิง ไม่พบการถ่ายทอดทางพันธุกรรมที่แน่ชัด
-
> โรคนี้ยังไม่ทราบสาเหตุว่าเกิดขึ้นจากเหตุใดที่แน่ชัด แต่อาจเกี่ยวข้องกับเซลล์ประสาทซึ่งอยู่ในสมองและไขสันหลัง ที่ทำหน้าที่ควบคุมการเคลื่อนไหวของกล้ามเนื้อต่างๆเกิดตายหรือเสื่อมสภาพลง โดยไม่ทราบสาเหตุ ถ้ามีอาการป่วยมากควรอยู่ในความดูแลของแพทย์
-
> และก่อนอื่นต้องบอกก่อนว่า ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร ไม่ใช่ยารักษาโรค จึงไม่สามารถอ้างอิงได้ว่าจะช่วยบำบัด บรรเทา ป้องกัน หรือ รักษาโรคกล้ามเนื้ออ่อนได้ ยิ่งถ้าเป็นโรคที่ยังไม่ทราบสาเหตุที่แน่ชัดและยังไม่สามารถรักษาให้หายขาดได้ ควรอยู่ในความดูแลของแพทย์อย่างใกล้ชิดด้วยนะครับ
-
> ส่วนในเรื่องของการดูแลสุขภาพด้านโภชนาการ หากเกิดมีภาวะอ่อนแรง ก็คงทำเช่นเดียวกับคนทั่วๆไป แนะนำให้ทานอาหารให้ครบหมู่ ในปริมาณที่เพียงพอและสมดุล ได้แก่
- โปรตีนคุณภาพ / เสริมสร้างซ่อมแซมร่างกายส่วนที่สึกหรอ
- คาร์โบไฮเดรต(เชิงซ้อน) อาทิ ข้าวกล้อง / เสริมสร้างพลังงาน
- ไขมัน(ที่ดี) อาทิ กรดไขมันโอเมก้า-3(DHA+EPA) / ส่งเสริมสุขภาพสมองและระบบประสาท, ส่งเสริมการไหลเวียนของเลือด , ต้านภาวะอักเสบ
- วิตามิน ,เกลือแร่ ,ไฟโตนิวเทรียนท์ / ส่งเสริมระบบการทำงานของร่างกาย(โดยรวม)
- วิตามิน บี(ต่างๆ) / ส่งเสริมการทำงานของระบบประสาทและสมอง
- เลซิติน / ฟอสฟาติดิลโคลีน(ในเลซิติน) ส่งเสริมการสร้างสารสื่อประสาทในสมอง
- โคเอ็นไซม์ คิวเท็น / ส่งเสริมการสร้างพลังงาน(ATP)ให้กับเซลล์ต่างๆ อาทิ เซลล์กล้ามเนื้อ,ตับ,ไต,ปอด ฯลฯ
- สารสกัดจากใบแปะก๊วยและใบบัวบก / ส่งเสริมการไหลเวียนของเลือดในสมอง, ปกป้องเซลล์สมองจากสารพิษ(บางชนิด)
- สารสกัดจากโสมไซบีเรีย / ส่งเสริมออกซิเจนให้กล้ามเนื้อ, เพิ่มความทนทาน/ลดภาวะเครียดของกล้ามเนื้อ
- หากจะดื่มเครื่องดื่มแนะนำไฟโตดริ้งค์ ที่อุดมไปด้วย วิตามินบี,ซี,ใยอาหาร พร้อมทั้ง สารสกัดจากผลไม้นานาชนิด
- ดื่มน้ำสะอาดให้เพียงพอ วันละ 8-10 แก้ว
- นอกจากนี้ แนะนำว่า พยายามออกกำลังกาย(กล้ามเนื้อส่วนนั้นๆ) หรือ ทำกายภาพบำบัดกล้ามเนื้อ(ตามคำแนะนำของแพทย์) เพื่อให้ระบบหมุนเวียนของเลือดและน้ำเหลืองทำงานได้ดีขึ้น
- พยายามลดความเครียด (สร้างทัศนคติบวก)
- ควรพักผ่อนนอนหลับให้เพียงพอ
-
หมายเหตุ :
หมายเหตุ : ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารไม่ใช่ยารักษาโรค จึงไม่สามารถอ้างอิงได้ว่านำมาใช้ในการ บำบัด บรรเทา ป้องกัน หรือ รักษาโรค
: วัตถุประสงค์ในการทานผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร เพื่อให้ร่างกายได้รับสารอาหารจากผลิตภัณฑ์เสริมอาหารอย่างเพียงพอและสมดุล นอกเหนือจากที่ได้รับในอาหารมื้อปกติ เพื่อร่างกายจะได้นำสารอาหารที่ได้นั้นไปใช้ประโยชน์ได้อย่างครบถ้วนครับ
- หากทานยาตามคำแนะนำของแพทย์อยู่ แนะนำว่าควรนำ "ชื่อยา" หรือ "ซองยา" ไปปรึกษากับเภสัชกร(ประจำช็อป)ก่อนด้วย
ขอขอบคุณ ปูเปอร์ติสคลับ

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

กรดอะมิโนจำเป็น 9 ชนิด

การดูแลต่อมไทรอยด์

รักษามะเร็งด้วยใจที่ไม่ยอมแพ้ ต้องมีร่างกายที่พร้อมจะต่อสู้ ควบคู่กันไป