ไขข้ออักเสบในโรคสะเก็ดเงินกับอาหารที่ควรหลีกเลี่ยง

“โรคไขข้ออักเสบสะเก็ดเงิน” Psoriatic arthritis อาหารที่ควรหลีกเลี่ยง
     โรคไขข้ออักเสบสะเก็ดเงิน ถือได้ว่าการดูแลใส่ใจเป็นสิ่งสำคัญสำหรับคนที่เป็นโรคนี้ต้องมีการดูแล การเลือกรับประทานอาหาร เพื่อสุขภาพ ของแต่ละคน เป็นการหลีกเลี่ยงอาการของโรคที่เป็นไม่ให้มีอาการแสดงออก เป็นสิ่งสำคัญที่เราจะต้อง การดูแลใส่ใจในเรื่องของสุขภาพ อาหาร ที่เรากินในแต่ละวันในแต่ละมื้อ เป็นสิ่งสำคัญเพื่อลดอาการกำเริบของได้
โรคข้ออักเสบสะเก็ดเงิน มักพบในเพศหญิงมากกว่าเพศชาย มักพบช่วงอายุ 20-40 ปี เป็นโรคที่มีอาการของข้ออักเสบ ร่วมกับผื่นผิวหนังสะเก็ดเงิน แต่ความรุนแรงของอาการ ทางข้ออักเสบอาจจะไม่รุนแรง เท่าอาการทางผิวหนัง และ อาจพบอาการทางผิวหนังนำมาก่อนในระยะเวลาหนึ่งจะเริ่มมีอาการทางข้ออักเสบเกิดขึ้นก็ได้ อาจทำให้เกิดอาการปวดบวม และ ตึงในข้อต่อ

Marie Jhin MD แพทย์ผิวหนัง ที่ได้รับการรับรองจากคณะกรรมการของแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนัง กล่าวว่าเนื่องจากการเพิ่มขึ้นของความดันในข้อต่อ อาจทำให้เกิดอาการของโรคสะเก็ดเงินนั้นแย่ลงได้ และ ทำให้เกิดข้อเสื่อมของข้อต่อ อาการผื่นผิวหนังสะเก็ดเงิน จะพบโรคที่ผิวหนัง เล็บ และ หนังศีรษะ ผื่นผิวหนังมีลักษณะเป็นตุ่ม หรือ ปื้นสีแดง ขอบเขตชัดเจน มีสะเก็ดขาวคลุม เมื่อขูดสะเก็ดนี้ออกจะมีจุดเลือดซึม

มักพบบริเวณที่มีการเสียดสี  เช่น ข้อศอก เข่า ก้นกบ และ หนังศีรษะ รอยโรคที่เล็บ จะพบที่เล็บมือบ่อยกว่าเล็บเท้า ลักษณะเล็บเป็นหลุม สีเล็บเปลี่ยนเป็นเหลือง ใต้เล็บหนา เปราะ มีการแยกยกตัวของเล็บ บริเวณปลายเล็บ และ อาการบริเวณหนังศีรษะ จะมีรังแค อาการข้ออักเสบมักพบที่ ข้อปลายนิ้วมือ นิ้วเท้า ข้อใหญ่ครั้งละ 2-3 ข้อ แบบไม่เท่ากัน มีอาการข้ออักเสบ ปวด บวม แดง ร้อน เป็นๆ หายๆ  และ บางครั้งอาจพบนิ้วอักเสบ ส่งผลให้นิ้วมือ นิ้วเท้า บวมอักเสบดูคล้ายไส้กรอก นอกจากนั้น อาจพบการอักเสบของข้อกระดูกสันหลังร่วมด้วยได้ ส่งผลให้มีอาการปวดหลัง ฝืดตึงข้อในตอนเช้า                        

 ผู้ที่มีอาการเป็นโรคข้ออักเสบสะเกิดเงิน ควรที่จะหลีกเลี่ยงอาหารบางชนิด และควรมีสุขภาพที่แข็งแรง อาหารบางประเภท เมื่อทานแล้ว ทำให้เกิดการอักเสบของโรค และ ควรเลือกรับประทานอาหารที่ช่วยเสริมสร้างภูมิต้านทานให้กับโรคนี้ได้เช่นกัน  

1.ขนมและขนมหวาน อาหารจำพวกนี้เมื่อทานเข้าไป จะเป็นการเพิ่มน้ำหนัก คอเลสเตอรอลสูง และ เพิ่มความดันโลหิต รวมทั้งความเสี่ยงของโรคเบาหวาน โรคมะเร็ง และ โรคหัวใจ การบริโภคน้ำตาล และ แป้งที่ผ่านการกลั่น การขัดสี จะเป็นการเพิ่มโมเลกุล ถ้าในระหว่างวันสามารถจำกัดปริมาณน้ำตาลที่ทานในแต่ละวันได้ยิ่งเป็นการดี และ สามารถเลือกทานรสหวานได้จากผลไม้สด ในแต่ละฤดูกาล

2.อาหารแปรรูป อาหารจำพวกที่อยู่ในรูปแบบของการบรรจุกระป๋อง ขนมกระป๋อง ครีมเทียม กาแฟ อาหารเหล่านี้ มักจะมี เกลือ น้ำตาล และ สารกันบูด ที่มีอยู่ในปริมาณที่เวลาทานมากเกินไปในร่างกาย ก็อาจจะทำให้เกิดโทษแก่ร่างกายได้ เพราะถือได้ว่าร่างกายได้ทานเข้าไปเกินความจำเป็น ควรเลือกรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ ให้เพียงพอต่อร่างกายทานให้ครบทั้ง 5 หมู่

3.เบคอน เป็นเนื้อสัตว์ที่มีไขมันอิ่มตัวโดยเฉพาะอย่างยิ่งในรูปแบบเนื้อสัตว์ที่แปรรูป แล้วสามารถเพิ่มระดับคอเลสเตอรอล ที่ไม่ดี และ เพิ่มความเสี่ยงของโรคหัวใจ และ ในปี พ.ศ. 2558 WHO ประกาศว่า เนื้อสัตว์แปรรูป เช่น เบคอน เป็นสารก่อมะเร็งเนื่องจากสารก่อมะเร็งก่อให้เกิดโรคได้ เมื่อเนื้อสุกที่อุณหภูมิสูง เช่น การทอด การรับประทานอาหารจำพวกไขมันเนื้อสัตว์ควรเลือกรับประทานให้พอเหมาะกับร่างกายเพราะเมื่อทานมากเกินความจำเป็นของร่างกายก็จะส่งผลทำให้คอเลสเตอรอลในเส้นเลือดอุดตันก็ทำให้เกิดโรคหัวใจ เบคอนจากการผลิตบางสถานที่ มีการผสมของดินประสิว ซึ่งอาจเปลี่ยนเป็น สารไรโตรซามีนสารที่ก่อให้เกิดมะเร็งในลำไส้ ได้ด้วย เราก็สามารถที่จะรับประทานเบคอนได้ แต่เลือกรับประทานให้พอดี ไม่มาก ไม่น้อยเกินไป เพื่อไม่ให้เกิดโทษต่อร่างกายของเรา

4.ผลิตภัณฑ์จากนม บางคนที่มีอาการของโรคข้ออักเสบสะเก็ดเงิน อาจพบอาการแย่ลงหลังจากที่ได้กินผลิตภัณฑ์ที่ทำจากนม ทำให้เกิดอาการอักเสบ หรือกำเริบขึ้นมาได้ หลังจากที่ได้ทานผลิตภัณฑ์จากนมแล้ว ซึ่งเราต้องคอยหมั่นสังเกตการรับประทานในแต่ละมื้อว่ามีส่วนผสมที่ทำให้เกิดอาการของโรคขึ้นมาได้หรือไม่ เมื่อเราทานอาหารแต่ละชนิดเข้าไปแล้ว “อย่ามองข้ามถึงเรื่องการรับประทานอาหารแต่ละชนิด เพราะถือได้ว่าเมื่อทานอะไรเข้าไปแล้วเกิดอาการกำเริบของโรคขึ้นมา นั่นแปรว่าของที่เรารับประทานชนิดนั้น เราไม่สามารถที่จะรับประทานได้” หมั่นคอยดูแล หมั่นคอยใส่ใจ ห่างไกล ของที่แพ้

5.กินปลาแซลมอน  ปลาแซลมอนเป็นปลา ตระกูลที่มีประโยชน์มากสำหรับคนที่เป็นโรคข้ออักเสบสะเก็ดเงิน เช่น เดียวกับ ปลาทู , ปลาไหล เป็นต้นถือได้ว่าเป็นแหล่งปลาที่มีโปรตีน และ วิตามินดี ที่มีประโยชน์ต่อสมอง และ อาจช่วยลดความเสี่ยงในโรคเบาหวาน นอกจากนี้กรดไขมันโอเมก้า 3 ที่ดีจะมีฤทธิ์ในการต้านการอักเสบของโรค และ ช่วยลดความเสี่ยงต่อการเป็นโรคหัวใจได้ดี สำหรับผู้ป่วยโรคสะเก็ดเงินข้ออักเสบ American Heart Assocoation แนะนำให้รับประทานอาหารจำพวกปลา 2 มื้อ เป็นอย่างน้อยต่อสัปดาห์เพื่อให้มีสุขภาพที่ดีต่อหัวใจและหลอดเลือด ในร่างกาย

6.ถั่ว เมื่อทานแล้วมีประโยชน์สำหรับหัวใจแม้ว่าถั่วทุกชนิดจะมีไขมันอิ่มตัวแต่ถั่ววอลนัท เป็นถั่วมีประโยชน์โดยเฉพาะอย่างยิ่งเป็น กรดไขมันอัลฟ่าไลโนเลอิก (ALA) ซึ่งเป็นกรดไขมันชนิดโอเมก้า 3 ซึ่งอาจช่วยให้ลดภาวะหัวใจเต้นผิดปกติและลดการอักเสบของเส้นเลือดแดง บุคคลที่กินถั่วเป็นประจำ เช่น ถั่ววอลนัทพีแคน , อัลมอนด์ , และ ถั่วลิสง จะทำให้เกิดความเสี่ยงต่ำเกือบ 30% ของการเกิดโรคหัวใจ เช่นเดียวกันอีก 15% ลดความเสี่ยงต่ออาการเป็นโรคมะเร็ง โรคเบาหวาน ร้อยละ 40 % และ ลดความเสี่ยงที่เสียชีวิตก่อนวัยอันสมควร รวมทั้งการกินถั่ววอลนัทยังสามารถป้องกันโรคความจำเสื่อม , ลดความเครียด , แก้ปัญหาการนอนไม่หลับ , ลดความเสี่ยงของมะเร็งเต้านม และ ยังเป็นตัวช่วยบำรุงเชื้ออสุจิให้แข็งแรงมากขึ้น รวมทั้งยังช่วยลดการอักเสบที่เป็นอันตรายในร่างกายของเราได้อีกด้วย

7.berries ผลไม้ที่มีสารต้านอนุมูลอิสระเปี่ยมไปด้วยสาร “แอนโทไซยานินส์” และ    โพลีฟีนอลที่ดีซึ่งอาจจะ  ช่วยต่อสู้กับโรคหัวใจ และ ลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคหัวใจวายได้ และ ยังมีไฟโตเสตอรอลในปริมาณสูง สามารถช่วยลดไขมันเลว (LDL, HDL) ได้อย่างมีประสิทธิภาพทั้งเบอร์รี่ ,  สตรอเบอร์รี่ , บลูเบอร์รี่ , ราสเบอร์รี่ , แครนเบอร์รี่ เป็นต้น  ตระกูลผลไม้รสเปรี้ยวจะเต็มไปด้วยใยไฟเบอร์ และ วิตามิน ที่ดี สำหรับร่างกาย ที่ต้องการเป็นพิเศษสำหรับคนที่เป็นโรคไขข้ออักเสบสะเก็ดเงิน ได้

      และนี่คือเหตุผลทีเราควรเลือกการทานอาหาร ผัก ผลไม้ ในระหว่างวันที่เราสามารถเลือกทานแล้วให้เกิดประโยชน์ในร่างกาย โดยเฉพาะกับคนที่เป็นโรคข้ออักเสบสะเก็ดเงินต้องทราบข้อมูลในการเลือกรับประทานอาหาร ในแต่ละชนิดว่าอาหารบางประเภทก็สามารถรับประทานได้ แต่บางชนิดบางประเภทก็ไม่สามารถจะรับประทานได้

      เพราะถ้าเราไม่ใส่ใจในการรับประทานอาหารแต่ละชนิด แต่ละอย่างแล้วก็อาจจะทำให้เกิดอาการของโรคกำเริบได้แบบไม่ทันตั้งตัว อาหารบางชนิด ผัก  และ ผลไม้  เมื่อได้ทานเข้าไปแล้วจะเป็นตัวช่วยสร้างภูมิคุ้มกันให้กับร่างกายของเราได้เป็นอย่างดี  พยายามเลือกทานอาหารแต่ละชนิดให้ครบทั้ง 5 หมู่ อย่าทานแต่เฉพาะเพียงบางอย่าง เพราะร่างกายของเราทุกคน ต้องการอาหารให้ครบเพื่อเป็นการช่วยซ่อมแซมส่วนที่สึกเหรอในร่างกายให้กลับมาแข็งแรง เพื่อสร้างภูมิคุ้มกันให้กับร่างกายของเราได้เป็นอย่างดี

ขอบคุณเนื้อหา

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

กรดอะมิโนจำเป็น 9 ชนิด

การดูแลต่อมไทรอยด์

รักษามะเร็งด้วยใจที่ไม่ยอมแพ้ ต้องมีร่างกายที่พร้อมจะต่อสู้ ควบคู่กันไป