โปรไบโอติกส์ (Probiotics) จุลินทรีย์สุขภาพ


     ร่างกายของมนุษย์ทุกคนประกอบด้วยสิ่งมีชีวิตซ่อนอยู่ภายในร่างกายอยู่ 2 ชนิด คือเซลร่างกายของเรามีอยู่ 60 ล้าน ล้านเซล และมีสิ่งมีชีวตอีกชนิดหนึ่งคือ แบคที่เรียดีอาศัยอยู่ที่สำไส้ของมนุษย์มีอยู่ 600 ล้าน ล้านตัว ทั้งสองส่วนอาศัยร่ามกันมาตั้งแต่มนุษย์ถือกำเนิดเกิดมาบนโลกนี้ตั้งแต่สมัยบรรพกาล ชีวิตมนุษย์ที่สามารถยืนหยัดมาจนถึงทุกวันนี้สิ่งมีชีวิตทั้งสองต่างเกื้อกูลกันตลอดมา
     ปัจจบันมีการศึกษาและวิจัยเพิ่มเกี่ยวกับเรื่อง โปรไบโอติก พบว่า สิ่งมีชีวิตนี้เป็นภูมิคุ้มกันให้กับเชลร่างกาย เป็น หมอ พยาบาล ทหารและตำรวจ ปกป้องเซลของเรา เป็นสิ่งมีชีวิตที่มีประโยชน์อย่างมาก เรามีโปรไบโอติกเพื่อเป็นภูมิคุ้มกันให้ร่างกายแข็งแรงอีกทาง
     โปรไบโอติกทำหน้าที่รักษาร่างกายจากโรคต่างๆ เช่น เบาหวาน ความดัน ภูมิแพ้ ข้อเสื่อ เข่าเสื่อม ผิวหนัง และอีกมากมาย

โพรไบโอติก (Probiotics) เป็นจุลินทรีย์มีชีวิตที่เป็นประโยชน์ต่อสุขภาพหรือจุลินทรีย์ชนิดที่ดี มีรากศัพท์มาจากภาษากรีกของคำว่า “Pro” ที่แปลว่า “ส่งเสริม” และ “Biotic” ซึ่งหมายถึง “ชีวิต” โดยมี Elie Metchnikoff ที่ถือว่าเป็น “บิดาของโพรไบโอติก (Father of probiotics) เป็นผู้เริ่มศึกษาถึงความมีอายุยืนของชาวบัลแกเรีย และค้นพบโพรไบโอติก
     “พรีไบโอติก” (Prebiotics) คือ อาหารของโปรไบโอติก  และ ซินไบโอติก (Synbiotics) คือ ผลิตภัณฑ์ที่มีโปรไบโอติกและพรีไบโอติกเข้าด้วยกัน ผลิตภัณฑ์ที่ว่าก็คือพวก ยาคูลและโยเกิร์ต เป็นต้น แต่มีปริมาณที่น้อยมาก เราสามารถส่งเสริมการสร้างจุลินทรีย์ชนิดนี้ได้ด้วยการรับประทานผักเพื่อมาทำหน้าที่เป็นบ้านให้กับจุลินทรีย์และทานผีกหรือผลไม้ที่ให้อาหารกับโปรไบโอติกจะได้ผลที่ดีกว่า

     เราสามารถพบโพรไบโอติกได้ในร่างกายตามธรรมชาติ ในอาหาร และในผลิตภัณฑ์อาหารเสริม หรือแม้แต่ครีมผิวหนัง โพรไบโอติกสามารถช่วยรักษาสมดุลในระบบทางเดินอาหาร และเพิ่มภูมิคุ้มกันในร่างกายให้แข็งแรง ลดภาวะภูมิแพ้ อีกทั้งยังช่วยให้การขับถ่ายดีขึ้น มีจุลินทรีย์ที่เป็นแบคทีเรียหลายชนิดถูกจัดว่าเป็นโพรไบโอติกและให้ประโยชน์ที่แตกต่างกันไป โดยโพรไบโอติกมีมากมายหลายสายพันธุ์ แต่สายพันธุ์ที่โดดเด่นมากที่สุดและนิยมนำมาเป็นส่วนประกอบในอาหาร ได้แก่
สายพันธุ์ Bifidobacterium lactis หรือที่หลายคนคุ้นหูกันในชื่อ B. lactis ซึ่งเป็นจุลินทรีย์ที่ได้รับการรับรองจากองค์การอนามัยโลกว่ามีความปลอยภัยต่อร่างกายสูง สามารถทนต่อกรดในกระเพาะอาหาร และอยู่ในลำไส้ได้นานกว่า ช่วยให้ระบบขับถ่ายทำงานได้ดีกว่าจุลินทรีย์ชนิดอื่นๆ
รวมถึงสายพันธุ์ Lactobacillus rhamnosus GG (LGG) ซึ่งเป็นจุลินทรีย์ที่สามารถเกาะติดกับเยื่อบุลำไส้ได้เหนือกว่าจุลินทรีย์ตัวอื่นๆ คอยเป็นเกราะป้องกันชั้นดีเพื่อไม่ให้จุลินทรีย์ก่อโรคเข้าสู่ร่างกาย และยังมีนักวิจัยนำไปศึกษามากที่สุดในโลกกว่า 700 ฉบับ รวมถึงมีการค้นพบว่า LGG มีคุณสมบัติในเรื่องการเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกันอีกด้วย  ( ขอขอบคุณ วันทนีย์ โลหะประกิตกุล )

“โปรไบโอติกส์ (Probiotics)”จากแม่
     น้ำนมแม่เป็นสิ่งที่มีประโยชน์และจำเป็นสำหรับทารกแรกเกิด เพราะ ทารกเป็นวัยที่ยังไม่สามารถสร้างภูมิต้านทานโรคได้เอง และในน้ำนมของแม่ก็มีสารอาหารหลากหลายที่ช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันโรคให้กับทารก หนึ่งในนั้นคือ “โปรไบโอติกส์ (Probiotics)”

     “โปรไบโอติกส์ (Probiotics)” คือ จุลินทรีย์สุขภาพ ซึ่งจัดเป็นเชื้อแบคทีเรียที่เป็นมิตรกับร่างกาย และเป็นแบคทีเรียชนิดเดียวกับแบคทีเรียในน้ำนมแม่ เมื่อทารกได้รับจุลินทรีย์โปรไบโอติกส์เข้าสู่กระเพาะอาหารและลำไส้ จุลินทรีย์ชนิดนี้ก็จะเพิ่มจำนวนเป็นทวีคูณในกระเพาะอาหารและลำไส้ของทารก เพื่อช่วยในการเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน ซึ่งบทบาทของโปรไบโอติกส์นั้น จะช่วยในการป้องกันโรค สร้างภูมิคุ้มกัน และช่วยฆ่าเชื้อแบคทีเรียชนิดที่ไม่เป็นมิตรต่อร่างกาย ที่ติดมากับอาหารหรือสิ่งที่ทารกรับประทานเข้าไป เป็นเหตุให้เกิดอาการติดเชื้อและท้องร่วงในทารก ซึ่งโปรไบโอติกส์สามารถป้องกันอาการต่างๆ เหล่านี้ได้ เปรียบเสมือนเป็นเกราะป้องกันไม่ให้เชื้อโรคทะลุผ่านเข้ามาในร่างกายของทารก

     นายแพทย์สมบูรณ์ รุ่งพรชัย กล่าวว่า Probiotic ช่วยในการ การชะลอวัย ผิวพรรณเต่งตึง
งานวิจัยทางการแพทย์ใหม่ๆ ทั่วทุกมุมโลก ในช่วง 3-4 ปีที่ผ่านมา พบว่าความเสื่อมชราที่เกิดกับเรา อาจมิใช่เกิดจากวันเวลาที่ผ่านไปเท่านั้น หากแต่อาจเกิดจากกลไกบางอย่างในร่างกายที่ทำงานมากเกินและเสียสมดุล กลไกดังกล่าว คือ ภาวะอักเสบเรื้อรังในร่างกาย นักวิทยาศาสตร์พบว่า ผู้ที่มีระดับการอักเสบสูง จะพบความเสื่อมของร่างกาย ผิวพรรณได้มากกว่าคนปกติทั่วไป ซึ่งก็รวมไปถึงความเสื่อมของผิวพรรณ และริ้วรอยแห่งวัยในผิวของเรา
โปรไบโอติก หรือจุลินทรีย์ที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย เป็นแบคทีเรียที่อาศัยอยู่ในทางเดินอาหารของเรา ซึ่งไม่ก่อให้เกิดโรค แต่กลับมีประโยชน์ในการปรับสมดุลการทำงานในทางเดินอาหาร ช่วยย่อยสารอาหาร และคอยกำจัดแบคทีเรียร้ายออกจากร่างกาย หากขาดซึ่งจุลินทรีย์ประโยชน์มากหลายเหล่านี้ คุณก็เสี่ยงต่อการอักเสบเรื้อรังในทางเดินอาหาร สาเหตุหลักของความเสื่อมในร่างกาย ที่ทำให้คุณแก่ชราลงได้อย่างน่าใจหาย ปัจจุบันพบว่า ยาที่ใช้รักษาโรคหลายชนิด การกินอาหารจานด่วน สารเคมีปนเปื้อนในอาหาร ล้วนแล้วแต่ทำให้เกิดการอักเสบเรื้อรังในลำไส้ได้ทั้งสิ้น โดยมันอาจทำร้ายร่างกายเราอย่างเงียบๆ เนื่องจากในบางคนอาจไม่แสดงอาการรุนแรงใดๆ ทำให้เกิดการเร่งความเสื่อมร่างกายอย่างต่อเนื่อง และไม่หยุดหย่อน

"แพทย์พบว่า ในคนที่ทานโปรไบโอติกเสริมอาหารอย่างต่อเนื่อง จะช่วยให้ร่างกายกำจัดการอักเสบเรื้อรังในลำไส้ได้รวดเร็วยิ่งขึ้น ผลก็คือ คุณไม่จำเป็นต้องแก่เร็ว อีกต่อไป ที่สำคัญโปรไบโอติก เป็นสารอาหารธรรมชาติ จึงไม่มีผลข้างเคียงใดๆ หรือเกิดผลเสียแต่อย่างใดกับร่างกาย มีฤทธิ์ในการเสริมภูมิแก่ร่างกาย ทำให้คุณแข็งแรง และอ่อนเยาว์ ได้ทั้งทางตรงและทางอ้อม"

          ปัจจุบัน มีการเสริมการทำงานของเชื้อจุลินทรีย์ที่มีประโยชน์ต่อร่างกายมากยิ่งขึ้น ด้วยการเติมอาหารของเชื้อจุลินทรีย์เหล่านี้ ให้มากยิ่งขึ้น ซึ่งก็คือ พรีไบโอติก ( Prebiotics ) ทำให้เกิดสารเสริมอาหารตัวใหม่ที่ทำงานต่อร่างกายได้มีประสิทธิภาพสูงสุด คือ ซินไบโอติก ( Synbiotic ) หรือสารอาหารโปรไบโอติกที่ผสมพรีไบโอติก เนื่องด้วย จุลินทรีย์ที่ดีต่อร่างกายจะสามารถแบ่งตัว และกระจายเข้าซ่อมแซมภูมิต้านทานของระบบทางเดินอาหาร และปรับสมดุลการทำงานของทางเดินอาหารได้ดียิ่งขึ้น อาจกล่าวได้ว่า ซินไบโอติก น่าจะให้ผลประโยชน์ต่อร่างกายได้สูงสุด

"จากการวิจัยล่าสุดพบว่า เชื้อจุลินทรีย์แต่ละชนิดจะมีบทบาทและหน้าที่แตกต่างกันไป จึงพบว่าการใช้โปรไบโอติกหลายๆกลุ่ม หลายๆสายพันธุ์จะให้ผลดีเป็นทวีคูณ"
          ระบบทางเดินอาหารที่ผิดปกติบ่อยครั้ง อาจเป็นสัญญานเตือนความแก่ที่มาหาคุณก่อนวัย ป้องกันได้ด้วย การรับประทาน โปรไบโอติก อย่างสม่ำเสมอ และปัจจุบันการใช้ซินไบโอติก อาจยิ่งทำให้เกิดผลดีกับร่างกายของเราได้เร็วขึ้นและมากขึ้นได้ ล่าสุด โปรแกรม turbo beauty จากประเทศสหรัฐอเมริกา พบว่า โปรไบโอติกไม่เพียงทำให้หน้าท้องกระชับ ระบบขับถ่ายดี ป้องกันท้องอืด ยังช่วยลดการอักเสบที่ทำลายผิวอย่างต่อเนื่อง ผลก็คือ ผิวพรรณที่อ่อนเยาว์ของคุณ ลดอาการแพ้ผิวหนังได้ ทำให้ผิวพรรณเปล่งปลั่ง ได้อย่างรวดเร็วและคงรักษาความอ่อนเยาว์ให้นานเท่านาน อย่าแปลกใจที่ต่อไปนี้ คุณจะพบว่าไม่ว่าจะอาหารทั่วไป อาหารเสริมรวมไปถึงครีมบำรุงผิว ในยุคหน้า จะมีโปรไบโอติกผสมอยู่ด้วยเสมอ มากขึ้นทุกขณะ ของที่ดีกับลำไส้ ย่อมดีกับร่างกาย และผิวพรรณ จริงไหมครับ แพทย์ผิวหนังชั้นนำในสหรัฐอเมริกา กล่าวว่า โปรไบโอติกจะช่วยลดการอักเสบที่ผิว ทำให้ผิวลดความเครียด ซ่อมแซมตัวเองได้ดียิ่งขึ้น และช่วยให้ผิวของคุณมีภูมิต้านทานต่อสิ่งแวดล้อม และสารพิษรอบตัวได้มากยิ่งขึ้น สูตรความงามของคนยุคนี้ อาจกล่าวได้ว่า ผิวสวยด้วยจุลินทรีย์นะครับ รู้อย่างนี้แล้ว อย่างรอให้ความแก่ก่อตัวอย่างถาวรในร่างกายและผิวพรรณเรานะครับ สุขภาพกายและผิวของคุณ รักษาไว้ได้ด้วยโปรไบโอติก

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

โปรตีนจากสัตว์มีความแตกต่างจากโปรตีนจากพืชอย่างไร?

กรดอะมิโนจำเป็น 9 ชนิด

ระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย